ฤดูหนาว

ฤดูกาล แห่งความหนาว ก้าวมาเยือน
ฤดูเหงา ตามคล้อยเคลื่อน ให้สับสน
ฤดูใจ ถวิลหา ใครสักคน
คอยปลอบโยน ให้หัวใจ ยามสิ้นแรง

สายลมหนาว พาดพัดผ่าน กายหนาวสั่น
ฤทัยพลัน ถึงทอดถอน ให้อ่อนไหว
หนาวทั้งกาย ลึกถึงทรวง ทุกห้วงใจ
แลหาใคร เคียงข้างกาย คลายทุกข์ตรม

อุ่นใดเล่า เท่าอุ่นกาย ได้ใกล้ชิด
แนบดวงจิต ชิดใกล้ ไม่ห่างหาย
อุ่นใดเล่า จะเทียบเท่า กายห่มกาย
อุ่นมิคลาย ใต้จันทรา ฟ้ากว้างไกล

หากตอนนี้ มีเพียงเธอ อยู่แนบชิด
แม้นความคิด ที่สับสน คงพ้นหาย
ในอ้อมกอด มีเพียงเธอ คงผ่อนคลาย
หยุดเวลา ความเหงาใจ หยุดแค่เรา

มือสัมผัส ความอบอุ่น ละมุนรัก
ตาประจักษ์ ความลึกซึ้ง สื่อความหมาย
สองแขนโอบ เคล้าคลอ พนอกาย
สองจิตใจ เพ้อพันผูก เป็นหนึ่งเดียว

อยากเป็นดาว กะพริบพราว บนฟากฟ้า
เคียงจันทรา แสงนวลผ่อง ให้ต้องเหลียว
ให้รู้ว่า อยู่เคียงเธอ ไม่โดดเดี่ยว
คงไม่เปลี่ยว เพราะระยิบระยับตาม

หากแต่เพียง หนาวนี้ ไม่มีรัก
ให้ประจักษ์ ถึงวาจา ได้ว่าหวาน
ไม่พบพาน ซึ่งความรัก แสนเนิ่นนาน
ไม่พบพาน ความลึกซึ้ง ให้ตรึงใจ

จำต้องอยู่ เพียงลำพัง กับลมหนาว
จำต้องกลาย เป็นดวงดาวที่อับแสง
จำต้องฝืน จำอดทน แม้อ่อนแรง
จำสิ้นแสง ร่วงหล่นลง บนผืนดิน

กลายเป็นเศษ ผงธุลี ที่ไร้ค่า
แหงนมองฟ้า หาแสงจันทร์ ให้ส่องฉาย
แต่ตอนนี้ กลายเป็นดิน สิ้นแสงไป
ดวงหทัย ให้เศร้าหมอง ตรอมทุกข์ตรม

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอให้"แม่มดแสงจันทร์"คนนี้ ได้มีโอกาสส่องแสงให้ก่อนหินที่อ่อนแรง ได้ส่องแสงบนฟ้าอีกคราเถอะ