๓.หุ่นเชิดกับความสับสน

ในโลกที่ฉันเกิดมา...ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ไม่เคยมีแม้บ้านที่เป็นของตัวเอง ย้ายไปเรื่อยๆตามที่ต่างๆครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่จำความได้...

ฉันพยายามที่จะไม่โทษถึงต้นสายแห่งตระกูลฉัน...ที่เหลือไว้ให้ฉันได้ใช้เพียงแค่ นามสกุล กับความไม่เท่าเทียมกันในวงศาคณาญาติ การดูถูกกันเองของวงศ์วานในรุ่นก่อนๆ ที่เกี่ยวพันต่อมาถึงรุ่นฉัน...

ฉันก็พยายามให้ได้มีเหมือนคนอื่นๆ ในเหล่ากอที่ใช้ สกุลเดียวกันแล้ว แต่ตัวฉันดันเกิดมา โง่ ในเรื่องอื่นๆทั้งหมด ยกเว้น การวาดรูป สิ่งเดียวที่ได้รับพรมาจากเบื้องบน คือสองมือที่สามารถสรรสร้างภาพวาด ออกมาในแบบที่ฉันพึงประสงค์ได้

แต่...พรนี้ฉันใช้มันได้ไม่เต็มที่เลย เพียงเพราะเงื่อนไขแวดล้อมทางสังคมในชีวิต เพียงเพราะเหล่าทฤษฎีและตัวหนังสือ กับตัวเลขที่มีจุดทศนิยม กักกันมันเอาไว้ โลกแห่งการแก่งแย่งแข่งขันต่างๆนาๆ ที่ด้วยความเป็นจริง ตัวเลขกับตัวอักษรทั้งหลาย ไม่ได้ช่วยให้ตัวฉัน...อยู่รอดมากเท่าที่ควร ไม่ได้ช่วยให้ครอบครัวฉัน เป็นสุขได้เลย และไม่ได้ทำให้ฉันได้ใช้พรจากเบื้องบนอย่างที่ตัวฉันมีได้มากอย่างใจต้องการ...และทุกอย่างก็ต้องถูก กดไว้ เก็บมันไว้ พูดไม่ได้ มันทำให้พฤติกรรมหลายอย่างของฉันเต็มไปด้วยความลับ...ที่เผยไม่ได้ เต็มไปด้วยคำถามจากผู้คนรอบข้างที่สงสัย ในสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ ดำเนินอยู่ที่ฉันเองเอ่ยปากตอบไม่ได้...

ไม่ใช่เพราะ เขินอาย ไม่ใช่ว่า ร้ายแรง แต่ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ใครๆต้องรับรู้ใส่ใจ หรือเป็นเดือดเป็นร้อนแทนตัวฉัน หลายคนพยายามเค้นหาคำตอบจากฉัน แต่ที่ได้กลับไปคือความว่างเปล่าในคำตอบ ไร้ความกระจ่างใดๆ ไร้เหตุผลที่จะอธิบาย

ถามตัวเองหลายต่อหลายครั้งว่า ถ้าความทรงจำทั้งหมดหายไปเฉยๆ พร้อมกับความลับที่เก็บไว้คนเดียวมานาน ตื่นขึ้นมาเป็นมนุษย์ที่ไม่มีความทรงจำใดหลงเหลือแล้วเริ่มต้นใหม่จาก ศูนย์ จะเป็นอย่างไร ชีวิตจะสรรหาและได้ใช้พรจากคนเบื้องบนอยู่หรือไม่ ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาจะดูแปลกตาไปจากเดิมมั้ย

อยากรู้คำตอบของคำถามเหล่านี้จังเลย

สับสน ว้าวุ่น กังวลไม่หยุดหย่อน รู้ว่ามีคนที่อาจลำบากกว่า คิดมากกว่า หรือลึกซึ้งกับความลำบากต่างๆนาๆมากกว่าฉัน แต่ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะคิดไม่ใช่หรือ...ถึงสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเป็นทุกข์ในตอนนี้ และหนทางเดียวแห่งความรอดพ้นทุกข์นี้ที่เห็นแสงฉายส่องเพื่อให้เดินมุ่งไป คงมีแค่ ธรรมฺ เท่านั้น

นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันลืมคำสอน ขององค์มหาบุรุษผู้ฝากความรู้อันเป็นจริง และประเสิรฺฐยิ่งแก่มวลมนุษยชาติไว้ในโลกใบนี้เมื่อ 2,500 กว่าปีล่วงมาแล้ว
ก็เรายังใช้ พุทธศักราช กันอยู่มิใช่ฤา...

ไม่มีความคิดเห็น: