ความเหงาที่ลอยฟุ้งในอากาศรอบตัวเรานี่มีมากมายซะจนหนีมันไม่พ้นแค่เพียงชั่วครู่เดียวที่ปล่อยตัวเองดำดิ่งลงสู่ความโดดเดี่ยว ความเหงาก็เข้ามาแทนที่ทันที
แต่ถึงแม้บางครั้ง...จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายก็ใช่ว่าจะสัมผัสถึง ละอองความเหงาไม่ได้และการรับรู้ถึงความเหงาที่แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนรายล้อมดาษดื่นนี้มันยิ่งเหงากว่าการอยู่โดดเดี่ยวในความเหงาเพียงคนเดียวเสียอีก
หุ่นเชิดอย่างฉันซึมซับกับละอองความเหงาเหล่านี้ดีทั้งในแง่ที่ต้องอยู่เดียวดาย และ เหงาท่ามกลางผู้คน
เวลาต้องออกแสดง ฉันทำให้ใครต่อใคร รู้สึกยินดียินร้ายตามบทบาท ณ ตอนที่ต้องแสดงอารมณ์นั้นๆแต่ในขณะเดียวกัน...ข้างในมันช่างว่างเปล่าเหมือนเครื่องจักรที่ขยับได้แต่คิดไม่เป็น...เหมือนใบไม้ที่ปลิวไปตามแรงลมแต่หารู้ไม่ว่าจุดหมายของตนอยู่ที่ใด
เวลาไม่ต้องออกแสดง ก็โดนทิ้งขว้าง วางกองไว้เฉยๆในที่เดิมๆของตัวเอง...จับจดกับความคิดที่กลับมีมากมายมากกว่าตอนออกแสดงเสียอีก
แต่...ไม่ว่าจะยังงัย ฉันก็ยังเป็นหุ่นเชิดตัวเดิมตัวที่เริ่มผุพังไปตามกาลเวลา...รอวันหมดอายุฉันจึงเข้าใจและซึมซับ ละอองความเหงาที่ลอยล่องอยู่ในอณูอาาศ ได้อย่างเต็มใจและพร้อมที่จะอยู่กับมัน...จนวันสุดท้ายของการใช้งาน
๑๓.หุ่นเชิดกับความเหงาในอณูอากาศ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น