มีคนเคยบอกฉันว่า...นวนิยาย โรแมนติค ไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างสวยงามเสมอไป
ฉันก็ลองมานั่งคิดว่า...เขาต้องการจะบอกอะไรกับหุ่นเชิดอย่างฉันหุ่นเชิดที่ยังคงต้องเล่นอยู่ในบทบาทที่คนบนฟ้า เขียนไว้ให้เล่นและเหมือนแทบจะไม่มีบท โรแมนติค เลยในชีวิตฉัน
จนมานึกได้ว่า โรแมนติค นั้นแปลว่า เพ้อฝัน นี่!!
และความเพ้อฝัน มักอยู่เหนือความเป็นจริง...ซึ่งดูๆไปแล้ว คำพูดที่ฉันได้ยินมา ก็อาจจะจริงที่ มันไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างสวยงาม...
อะไรบางอย่างที่เรารู้สึกต่อมันอย่างจริงจังทั้งๆที่มันเป็นเรื่อง เพ้อฝัน มันก็มักจะทำให้เกิดอุปทานหรือนึกว่าเรื่องนั้น...สิ่งนี้เป็นจริงมันไม่ได้ต่างจากการหลอกตัวเองเลยซักนิดบิดเบือนสิ่งที่อยู่ในความเป็นจริงที่บิดเบี้ยวอยู่แล้วให้ยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้น และมากขึ้นไปอีก
แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมเพี้ยนๆปัจจุบันนี้กลับเห็นว่ามันเป็นสิ่งน่าอภิรมณ์ และน่าหลงใหล
ฉันนึกย้อนกลับไปกลับมา จริงๆแล้วตัวฉันเองก็ถูกกำหนดให้เล่นบทบาทนี้มาตลอดนี่นาบทบาทแห่งความโรแมนติค ตั้งแต่จำความได้เพ้อฝัน ว่าจะเป็นแบบนั้น จะทำแบบนี้อยากมีสิ่งนั้น อยากได้สิ่งนี้ ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่าในความเป็นจริง ทุกสิ่งไม่เป็นดังที่ควรเป็นเหมือนตอนที่เรา เพ้อฝัน เลย...
มันก็ยิ่งตอกย้ำคำพูดในตอนต้นให้เห็นชัดขึ้นไปอีกแล้วทำให้พาลคิดไปว่า ทุกคนบนโลกเบี้ยวๆใบนี้โรงละครโรงใหญ่ของ ฉัน โรงนี้...ต่างก็เคยเล่นบท โรแมนติค มาแล้วด้วยกันทั้งสิ้นแล้วจะผิดหวังเสียใจกับเรื่องใดๆมากจนเกินไปทำไมในเมื่อ โรแมนติค กับ ความเพ้อฝัน คือสิ่งเดียวกันและมันไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างสวยงามเสมอไป
สดุดีฯ แด่ ความโรแมนติค อันแสนรื่นรมณ์ที่ทำให้รู้ว่า...บางครั้ง การหลบเข้าไปอยู่ในบทบาทแห่งความโรแมนติคนั้น อาจมีฤทธิ์ แรงกว่า มอร์ฟีนที่ช่วยระงับความเจ็บปวดทางร่างกายได้เพราะมัน เป็นยาระงับความเจ็บปวดทางจิตใจที่แม้ว่าเมื่อถอดตัวเองจากบทบาทที่โรแมนติคนั้นแล้วความเจ็บปวดทั้งหลายก็ยังคงอยู่ตรงที่เดิมและอดทนรอ ให้เรา ผ่านมันไปให้ได้
โรแมนติค.........เพ้อฝัน
เพ้อฝัน.........โรแมนติค
อืมมม
+
+
+
+
+
+
+
+
+
...มีคนเคยบอกฉันแหละ
...ว่า
...นวนิยาย โรแมนติค
...ไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างสวยงามเสมอไป
ฉันก็ลองมานั่งคิดว่า...เขาต้องการจะบอกอะไรกับหุ่นเชิดอย่างฉันหุ่นเชิดที่ยังคงต้องเล่นอยู่ในบทบาทที่คนบนฟ้า เขียนไว้ให้เล่นและเหมือนแทบจะไม่มีบท โรแมนติค เลยในชีวิตฉัน
จนมานึกได้ว่า โรแมนติค นั้นแปลว่า เพ้อฝัน นี่!!
และความเพ้อฝัน มักอยู่เหนือความเป็นจริง...ซึ่งดูๆไปแล้ว คำพูดที่ฉันได้ยินมา ก็อาจจะจริงที่ มันไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างสวยงาม...
อะไรบางอย่างที่เรารู้สึกต่อมันอย่างจริงจังทั้งๆที่มันเป็นเรื่อง เพ้อฝัน มันก็มักจะทำให้เกิดอุปทานหรือนึกว่าเรื่องนั้น...สิ่งนี้เป็นจริงมันไม่ได้ต่างจากการหลอกตัวเองเลยซักนิดบิดเบือนสิ่งที่อยู่ในความเป็นจริงที่บิดเบี้ยวอยู่แล้วให้ยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้น และมากขึ้นไปอีก
แต่คนส่วนใหญ่ในสังคมเพี้ยนๆปัจจุบันนี้กลับเห็นว่ามันเป็นสิ่งน่าอภิรมณ์ และน่าหลงใหล
ฉันนึกย้อนกลับไปกลับมา จริงๆแล้วตัวฉันเองก็ถูกกำหนดให้เล่นบทบาทนี้มาตลอดนี่นาบทบาทแห่งความโรแมนติค ตั้งแต่จำความได้เพ้อฝัน ว่าจะเป็นแบบนั้น จะทำแบบนี้อยากมีสิ่งนั้น อยากได้สิ่งนี้ ทั้งๆที่ก็รู้อยู่ว่าในความเป็นจริง ทุกสิ่งไม่เป็นดังที่ควรเป็นเหมือนตอนที่เรา เพ้อฝัน เลย...
มันก็ยิ่งตอกย้ำคำพูดในตอนต้นให้เห็นชัดขึ้นไปอีกแล้วทำให้พาลคิดไปว่า ทุกคนบนโลกเบี้ยวๆใบนี้โรงละครโรงใหญ่ของ ฉัน โรงนี้...ต่างก็เคยเล่นบท โรแมนติค มาแล้วด้วยกันทั้งสิ้นแล้วจะผิดหวังเสียใจกับเรื่องใดๆมากจนเกินไปทำไมในเมื่อ โรแมนติค กับ ความเพ้อฝัน คือสิ่งเดียวกันและมันไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างสวยงามเสมอไป
สดุดีฯ แด่ ความโรแมนติค อันแสนรื่นรมณ์ที่ทำให้รู้ว่า...บางครั้ง การหลบเข้าไปอยู่ในบทบาทแห่งความโรแมนติคนั้น อาจมีฤทธิ์ แรงกว่า มอร์ฟีนที่ช่วยระงับความเจ็บปวดทางร่างกายได้เพราะมัน เป็นยาระงับความเจ็บปวดทางจิตใจที่แม้ว่าเมื่อถอดตัวเองจากบทบาทที่โรแมนติคนั้นแล้วความเจ็บปวดทั้งหลายก็ยังคงอยู่ตรงที่เดิมและอดทนรอ ให้เรา ผ่านมันไปให้ได้
โรแมนติค.........เพ้อฝัน
เพ้อฝัน.........โรแมนติค
อืมมม
+
+
+
+
+
+
+
+
+
...มีคนเคยบอกฉันแหละ
...ว่า
...นวนิยาย โรแมนติค
...ไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างสวยงามเสมอไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น